หลังจากที่ผมเดินไปรับน้องฝ้ายกับไอ3ตัวกับ2นางคว้า เอ้ย นางฟ้าแล้ว ก็เดินไปทานข้าวกันที่โรงอาหารชั้นหนึ่ง โรงอาหารของร.ร.ผมมีสามชั้น ชั้นแรกและชั้นสองเหมือนกันแต่จะต่างกันตรงชั้นหนึ่งมีพวกห้องเกี่ยวกับดูแลโรงอาหารด้วย ส่วนชั้นสองมีห้องรับประทานอาหารของอาจารย์และแขกสำคัญๆ ชั้นสามบอกตามตรงตั้งแต่สร้างมาไม่เคยขึ้น แต่เพื่อนผมบอกโคตรหรูอ่ะ เห็นว่ากันว่าจะเป็นหอประชุมแทนที่เก่า หลังจากที่ผมเดินและซื้อชิพแล้วก็ไปเลือกซื้ออาหาร กินไรดีหว่าวันนี้~~ เออก๋วยเตี่ยวก็ได้
“ป้า เล็กแห้งน้ำหมูชามครับ” ผมสั่งอาหาร
“นี่นายกิต จะกินไหมเนี่ย” ป้าคนนี้รู้จักชื่อผมผมชอบกวนป้าบ่อยๆ ฮ่าๆๆ
“อ่ะกินครับป้า งั้นเอาเล็กน้ำตกหมูพิเศษ” กวนอีกกลัวไม่ได้กิน
“นี่ครับ”ผมยื่นชิพให้
“ใจจ้า”ป้าบอก
ผมเดินไปที่โต๊ะตรงที่จองไว้ก็ไม่เห็นมีใครสักคน สงสัยยังต่อแถวไม่เสร็จ ผมวางก๋วยเตี๋ยวแล้วเดินไปซื้อน้ำ เผอิญจริงจริ้ง~~ ดันมีเรื่องเกิดขึ้นอีกจนได้
‘โผละ!! โอยยย!!’
เสียงชามก๋วยเตี๋ยวหกใส่หลังผมพร้อมกับเสียงร้องของผมที่ทนความร้อนของก๋วยเตี๋ยวแทบไม่ได้ เสียงผมดังพอสมควรจนคนรอบข้างมองกันเลยครับ แต่ผมไม่สนใจมันเจ็บนี่หว่า ผมหันไปกะด่าไอคนทำหกละ
“นี่คุ....อ้าว” ผมหันไปเจอคนเมื่อเช้าที่เกือบถูกทำโทษแล้วครับ ซี่งผมโดนแทนไง- -
“ข...ขอโทษค่ะ!!” เธอขอโทษผมแล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าจะเช็ดให้ผม
“ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องหรอกขนิษฐา เดี๋ยวผมไปล้างเอง” ผมจับมือเธอที่ยื่นผ้าเช้ดหน้าออกมา ดันให้เธอเก็บไป
“ค่ะ ขอโทษนะคะ” เธอยังขอโทษผมเหมือนเดิม ดูเธอเป็นคนห่วงเรื่องเล็กน้อยเหมือนกัน
“งั้นผมขอตัวไปล้างตัวก่อนนะครับ” ผมบอกลาเธอ
ผมเดินไปที่ก๊อกน้ำที่อยู่ไม่ไกลจากโรงอาหารนัก ผมถอดเสื้อนักเรียนออกอย่างไม่อายใครเพราะเป็นพวกแอบจิตอยู่แล้ว เอ้ย! เพราะมีเสื้อกล้ามอยู่ ผมเอาเสื้อมาชุบน้ำและเช็ดๆๆๆๆๆๆ แต่ก็ได้แค่นั้นเสื้อเละกว่าเดิมอีก เวนกรรม-*- ทำไมวันนี้มันซวยงี้ว้า~~ไม่เข้าใจเอาซะเลย คนหล่อหน้าตาดีเหมือนติ๊กทำไมถึงต้องมีสวรรค์แกล้งด้วยน้า~~~(ผมเริ่มเพ้อละไง) แต่ขณะที่ผมซักเสื้ออยุ่ จู่ๆก็มีมือของผู้หญิงคนหนึ่งจับมือผมไว้แล้วหยิบเสื้อผมไป ทำเอาผมงงๆ ไม่ใช่ใครหรอกครับเธอคือขนิษฐานั่นเอง
“ขอเราล้างเองเถอะนะคะ มันรู้สึกไม่ดีเลยพอทำอะไรไม่ดีกับใครแล้วปล่อยเลยไป”เธอพูดพลางหันหน้ามาหาผมเชิงขอโทษ เมื่อกี๊ผมยังเจ็บเลยไม่ได้ฟังน้ำเสียงเธอเท่าไหร่ แต่พอได้ฟังชัดๆอย่างนี้ เสียงเธอน่ารักมากๆ แทบจะพาไปออกเทปได้เลย
“ไม่เป็นไรมั้งครับ ให้ผมซักเสื้อเองเถอะ” ผมยื่นมือไปจับมือเธอโดยไม่ตั้งใจ
เอาล่ะครับ ไฟพร้อม กล้องพร้อม แอคชั่น!!! ฉากนี้อย่างกับในหนังมาอีกแล้วววว ผมล่ะชอบจริงๆฉากโรแมนติกพระเอกนางเอกเนี่ย ผมมองหน้าเธอ เธอมองหน้าผม ต่างฝ่ายสบตาซึ่งกันและกัน แล้วผมกับเธอต่างก็ปล่อยมือออก เสื้อของผมตกไปอยู่กับพื้น ผมมองหน้าเธอรู้สึกเธอน่ารักกว่าตอนที่เห็นหน้าแถว เธอน่ารักมากผิวขาว เนียนเลย ชอบม้าก~~มาก แต่เห้ย!!ลืมไป ชอบปุยเมฆ ไม่ได้ๆจะให้คนน่ารักเพียงคนเดียวมาทำร้ายชีวิตผมไม่ได้ เอ...แต่เขาน่ารักนา- - จะเสียไปง่ายๆเลยหรอ ไม่ได้เด็ดขาดปุยเมฆสำคัญที่สุด ฯลฯ ความคิดของผมมันแยกเป็นสองฝ่ายละครับ คิดหนัก แต่แล้วผมก็หลุดจากห้วงความคิดด้วยเสียงหวานๆของเธอ
“ข...ขอโทษอีกครั้งนะคะ เสื้อเลอะหมดแล้ว” เธอก้มหยิบเสื้อแล้วเอามันขึ้นมากางดู
“ไม่เป็นไรครับ ให้ผมซักเองเถอะนะ ผมมันพวกถือคติให้ผู้หญิงทำงานให้มันไม่ดี” ผมเก๊กหล่ออีกแล้ว เอิ้กๆไม่รู้ว่าเธอจะคิดยังไงเหมือนกัน(แต่อยากบอกเธอเหลือเกิน ว่าจริงๆแล้วมันเละมาก่อนละล่ะ- -)
“เอ่อ...ก็ได้ค่ะ” เธอก้มหน้าแล้วเดินไปทางโรงอาหาร ผมมองตามเธอพลางซักเสื้อคิดอยู่ว่าไม่น่าเล้ย แค่ชื่อก็ยังไม่ได้ถาม-*-
“เอ้อ คือว่า...” เธอหันมาหาผมครับแล้วเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง “ชื่ออะไรหรอคะ”
“ก...กิตครับ” ผมบอกอ้ำๆอึ้งๆ เพราะไม่นึกว่าเธอจะหันมาถาม
“ค่ะ ชื่อเชียร์นะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” แล้วเธอก็วิ่งเข้าโรงอาหารไปเลย
หน้าผมเงี้ยยิ้มหวานเลยครับ ใครล่ะจะไม่เป็นแบบผมบ้าง ถ้าคุณได้พบกับคนน่ารักสักคนแล้วได้รู้จักเค้าโดยที่เค้าเป็นฝ่ายอยากรู้จักเราเนี่ย คิดดูจะมีความสุขแค่ไหน ผมซักเสื้อไปพลางคิดถึงเรื่องเมื่อกี๊ไปพลาง สุดยอดเลยมีความสุขๆๆ
หลังจากที่ผมคิดว่าเสื้อของผมสะอาดขึ้นมาบ้างแล้วผมจึงบิดน้ำออกเอามาใส่ทั้งๆที่มันเปียกน่ะแหละ ถามว่าไม่กลัวเป็นหวัดหรอ ผมบอกเลยไม่กลัวอ่ะ เรื่องซวยๆเจอมาเยอะเจออีกเรื่องคงไม่เป็นไร ผมเดินไปที่เดิม ปรากฎว่าซวยอีกจริงๆ พวกไอพอลกินกันหมดแล้ว เหลือผมเนี่ยต้องนั่งจ้องเส้นที่อืดจัดอยู่คนเดียว พอหยิบตะเกียบปั๊ป ‘กริ๊งงงงงง’ เสียงสัญญาณบอกหมดเวลาพักเที่ยงดังขึ้น ผมเลยไม่ได้กินอะไรเลย เวนจริงๆ-*- เลยเดินเอาจานไปเก็บกัน หิวเว้ยยยย!!!
ตอนกลับพวกผมก็เดินกันไปห้องน้องฝ้าย ไอพอลก็พยายามจีบน้องฝ้ายต่อไป ไอจิลก็เดินข้างๆมินจูงมือกัน(อิจฉาวุ้ยใครๆก็เดินเป็นคู่) ส่วนผมกับไอนัทก็เดินใกล้กันตามภาษาคนโสด(แต่ไม่ได้เป็นคู่เกย์นะ- -) พอพวกเราส่งน้องฝ้ายเสร็จก็เดินกลับห้องกันแล้วตั้งหลักอยู่แต่ในนั้นแหละ ผมเองก็เข้าไปนั่งที่เดิมของผม อ้าว!ปุยเมฆยังไม่มาแฮะ เซ็งเลยยยยย ผมเลยนอนหลับคาโต๊ะนั่นแหละ รอปุยเมฆมา
แล้วเวลาก็เผ่านไปเรื่อยๆ~~~ จนเสียงดังหมดเวลาพักกลางวันดังขึ้น(ร.ร.ผมกริ่งในโรงอาหารจะหมดก่อนเวลาพักจริง10นาที)
ผมเงยหน้าขึ้นมาหลังจากหลับไปนอนเฝ้าพระอินทร์ แล้วผมหันไปทางขวา อ้าว! ปุยเมฆมาแล้วนี่นา ทำไมไม่ปลุกเลยอ่ะ
“อ้าว ปุยเมฆมาเมื่อไหร่หรอ” ผมถามเธอตายังสลีมสลือ
“มาตั้งแต่เห็นใครบางคนนอนน้ำลายยืดแหละ หยี~~~แหยะๆๆ หยะแหยงอ่ะ” เธอแกล้งทำท่า น่าเอ็นดูจริง
จริ้งผู้หญิงอะไร
“หา น้ำลายหกหรอ!?” ผมเช็ดปากตัวเอง ไม่เหนมีไรเลยี่หว่า
“หลอกกันหรอ-*-”
“ช่ายยยย” เธอลากเสียงยาวๆกวนๆ
“งี้ต้องเอาคืน” ผมมองหน้าเธอแกล้งทำเป็นจะทำอะไรไม่ดีกับเธอ
“อย่านะ กิต!!” เธอหลับตาปี๋
“เป็นอะไรปุยเมฆ แค่เอาบางอย่างออกมาจากหูให้เอง อิอิ”
“หู!?” เธอยังหน้าแดงๆอายๆที่ผมแกล้งเธอเมื่อกี๊
“ ก็นี่ไง” แล้วผมก็ยื่นมือไปแตะที่หู ผ้าสีแดงพับเป็นดอกกุหลาบสีสวยสดโผล่ขึ้นระหว่างนิ้วกลางและนิ้วชี้ กลนี้เป็นกลที่ใช้จีบสาวกันบ่อยมากกกกก เพียงแต่ส่วนใหญ่ใช้ดอกกุหลาบ ซึ่งผมหาไม่ทัน- - (ดีนะที่แอบฝึกมาบ้าง ใช้ได้เลย)
“กิต นี่เธอเล่นกลเป็นด้วยหรอ” เธอถามผมอย่างทึ่งๆ
“อื้ม เป็นบ้างน่ะ”
“เรียนมาหรอเนี่ย”
“เปล่า ไม่ได้เรียนฝึกเอง”
“หรออ เก่งจังแล้วฝึกไปมากน้อยแค่ไหนได้แค่ไหนล่ะ”
“ก็แค่นี้แหละที่ฝึก”
“อ้าว โถ่นึกว่าเก่ง ฝึกไปทำไมแค่นี้” เธอแกล้งพูดแหย่ๆ แต่หารู้ไม่เข้าทางผม อิอิ
“ก็ฝึกไปเพื่อให้ได้ใกล้ชิดแล้วรู้จักกับใครบางคนที่คิดว่าใช่ไง” ผมบอกเธอ ส่งสายตาอีกครั้ง
“บ้าสิ ใครจะไปใกล้ชิดกับนาย อ้ะ อาจารย์มากแล้ว” เธอหันขวับไปอีกทางมองเห็นอาจารย์เดินเข้ามาจึงเปลี่ยนเรื่อง ผมยิ้มเมื่อเห็นหน้าเธอแดงระเรื่อ เธอเป็นคนน่ารักกว่าที่คิดไว้เยอะ ขี้เล่นและอ่อนไหวมากเลยครับ
แล้วเวลาก็ผ่านไปๆๆๆๆๆจนหมดคาบเรียนช่วงบ้าย เฮ้อ!!เลิกเรียนละ...
“ปุยเมฆบ้านอยู่ไหนหรอ” ผมถามเธอ
“อยู่แถวบางกะปิอ่ะ ทำไมหรอ”
“อ๋อ เปล่าหรอกถามเฉยๆ แล้วกลับยังไงหรอ” ผมหลอกถามเธอ จริงๆจะไปส่งแหละ อิอิ
“แม่เรามารับน่ะ ไปนะ บายๆ”เธอบอกผมแล้วลาเลย ไรว้า เสียแผนๆแม่ดันมารับ
“เดี๋ยวสิปุยเมฆ”
“ว่าไงหรอกิต” เธอหันกลับมา
“เอ่อ จะว่าอะไรไม๊ ถ้าเกิดเราจะขอเบอร์โทรปุยเมฆอ่ะ” หน้าผมแดงดิคราวนี้ เคยขอเบอร์จากใครที่น่ารักๆบ่อยๆที่ไหนล่ะ
“ไม่ให้อ่ะ” โหพูดงี้ผมเครียดเลย หน้าแตก “แต่ว่า....ถ้าเป็นอีเมลล์แทนได้ไม๊ล่ะ”
“ก...ก็ได้” โหทำซะเครียด ที่จริงก็อยากให้ใช้มะล่ะ เล่นตัวนะ อิอิ
“เอ้านี่” เธอยื่นกระดาษที่จดเมลล์ของเธอไว้
“ขอบคุณนะปุยเมฆ เออ เดี๋ยวเราเดินไปส่งปุยเมฆที่รถดีกว่า” ผมบอกแล้วหยิบกระเป๋าโดยไม่สนใจไอสามตัวหลังที่มันมองมาอย่างหมั่นไส้ ฮ่าๆๆ สะใจ
“อย่าเลย แม่เราดุ” เธอบอกผมทำผมเครียดอีกละ “แต่ว่า ถ้าส่งแค่แถวสนามบาสก็ไม่เป็นไรนะ”
“ได้เลย^^” ฮันแน่มีทำเครียดแล้วให้ดีใจอีกละนะ
ผมเลยเดินไปกับปุยเมฆ ไอพอลยังไงก็ไปรับน้องฝ้ายอยู่แล้ว ส่วนไอจิลก็ไปส่งมินที่บ้านเลย ไอนัทวันนี้มีเรียนดนตรีที่สยามมันเลยไม่ได้กลับกับผมอยู่แล้ว ผมเดินไปส่งปุยเมฆที่สนามบาส แต่ระหว่างที่ไปส่งเนี่ยรู้สึกสะใจสายตาคนรอบข้าง มันมองหมาวัดอย่างผมเดินข้างดอกฟ้า ถึงผมเป็นหมาวัดจริงๆ แต่หมาวัดก็มีหัวใจให้ใครๆได้เหมือนกันและมีสิทธิ์ที่ใครๆจะมารักได้เหมือนกันจริงไม๊ล่ะ
“ไอกิต แฟนหรอวะ!!” ไอนนเพื่อนเก่าห้องผมบอก
“เห้ย! ไม่ใช่” ผมปฏิเสธเห็นปุยเมฆเดินหน้าแดงไปเลย เอิ้กๆ
“เออกุไปก่อนนะ ส่งอนาคตแฟนกุก่อน” ผมตะโกนกลับบอกมัน ปุยเมฆหันมาค้อนแล้วเดินหนีผมเลย
“โอ๋ๆๆๆ ปุยเมฆกิตหรอเล่น ขอโทษนะๆ” ผมบอกเธอ
“เล่นอะไรบ้าๆอย่างนี้เล่า ไม่ต้องมายุ่งเลย” เธอบอกผมแล้วทำท่าไม่ให้ผมตาม เออเนอะเกือบลืมไปแม่เธอดุ เห็นแล้วคงจะยุ่ง
“งั้นบายๆนะ วันนี้เราจะแอดเมลล์ไป อย่าลืมรับนะครับ” ผมบอกเธอ เธอก็พยักหน้ารับ
เฮ้ออออ~~~สบายใจจังแฮะ เดี๋ยวคงต้องเอาอีเมลล์ไปง้อละ เบอร์ไม่ได้นี่นา ผมเลยย้อนกลับไปที่ตึกหนึ่งกะว่าจะกลับบ้านทางประตูสอง(ร.ร.ผมมีสามประตู ประตู1อยู่ด้านหน้าสุดของร.ร. ประตู2อยู่กลางร.ร. ประตู3อยู่ท้ายร.ร.) ผมเดินออกมาหน้าประตูสองกำลังจะเรียกมอเตอร์ไซด์สักหน่อย แต่ว่า....ดันเจอกับเรื่องบางเรื่องอีกละสิ
“กิต หวัดดีค่ะ” โอ้ะ! เสียงของเชียร์นี่เอง
“อ้ะ หวัดดีครับเชียร์”
“จะกลับบ้านหรือคะ?” เธอถามผม
“ใช่เลย แล้วเชียร์ยังไม่กลับหรอ หรือว่ารอใครมารับ?” ผมถามเธอมั่ง อ่ะเหอ~~
“เปล่าหรอกค่ะไม่มีใครมารับ แต่ว่ายังไม่กลับเพราะว่า....ป...เปล่าค่ะไม่มีอะไร” เธอพูดอ้ำๆอึ้งๆทำผมงง
“อ่า~~ แล้วบ้านเชียร์อยู่ไหนหรอครับ?” ผมถามเธอ
“อยู่ซอยAค่ะ”
“อ้าว จริงหรอ ที่เดียวกันเลย กลับกับเราไหม” อันนี้ผมไม่ได้เล่นมุกที่กะว่าจะใช้กับปุยเมฆนะ แต่บ้านผมอยู่ซอยเดียวกับเธอจริงๆ
“จริงหรอ!? ดีจัง งั้นก็ได้ค่ะ” เธอยิ้มเคอะเขินแปลกๆ ผมเลยยิ้มให้เธอบ้าง เธอมารยาทดีเรียบร้อยชะมัด สาวในอุดมคติผมเลยนะเนี่ย (แต่ปุยเมฆก็ในคติเหมือนกัน แต่อันนั้นเค้าออกแนวน่ารักขี้เล่น)
“งั้นกลับแท๊กซี่แล้วกัน ป่ะ” ผมบอกเธอ เพราะปกติแล้วผมจะกลับมอเตอร์ไซด์แล้วไปต่อรถเมล์ครับ ครั้งนี้สาวมาด้วยเลยขอให้เค้าสบายหน่อยดีกว่า จริงม้า~~
“จ้ะ” เธอยิ้มๆ
ผมเดินไปแถวๆประตูหนึ่งเพื่อไปดักรอรถแท๊กซี่ เพราะอยู่หน้าประตูสองโดนเอาไปหมดแล้วล่ะครับ ไม่เหลือสักคัน-*- แต่แล้วรอประตูหนึ่งอยู่ไปนานๆก็ไม่มีสักที ผมเห็นเชียร์ท่าทางจะเมื่อยละ เอาน่ะเกือบสามสิบนาทีละนี่ยืนตรงนี้
“เชียร์ นั่งก่อนก็ได้นะ” ผมบอกเธอ
“ไม่เป็นไรค่ะ กิตเมื่อยนั่งเถอะ”
“อ้ะ ไม่ได้สิ เราเป็นผู้ชายนั่งแล้วผู้หญืงยืนไม่ดีๆ เดี๋ยวรอเป็นเกย์ก่อนจะทำ อิอิ” ผมบอกเธอพลางปล่อยมุก(แป๊ก)
“...” เธอเงียบเลย สงสัยแป๊กจริง= =’
“เอาน่าเชียร์ นั่งไปเถอะ ตรงขอบรั้วเดี๋ยวเรามานะ” เธอยอมทำตาม ผมเดินไปที่รถขายน้ำใกล้ๆแล้วซื้อโค๊กมาสองกระป๋อง แล้วกับไปหาเธอ
“อ้ะ อากาศร้อนนะ^^” ผมยิ้มให้เธอแล้วส่งน้าให้
“ข...ขอบคุณค่ะ” ก็ไม่รู้ว่าจะติดอ่างทำไม- -
“อ้าว รถมาพอดีแฮะ” ผมโบกรถแล้วบอกเธอ
เราสองคนขึ้นไปเบาะหลังรถแล้วนั่งอยู่ข้างๆกับเชียร์ พวกเราก็คุยกันไปเรื่อยถึงเรื่องต่างๆ ว่าเธอมาจากโรงเรียนอะไรตอนประถม ชอบกินอะไร เรียนเป็นยังไงไปเรื่อย ทำให้ผมเจออีกแล้วผู้หญิงที่คล้ายกับปุยเมฆ เรียนดี นิสัยดีทำให้ผมอดชื่อชมเธอไม่ได้เลยแต่ก็ไม่ได้พูดชมนะ กลัวเธอจะเขินอะไรอีก- - แล้วเราสองคนก็แลกอีเมลล์และเบอร์โทรศัพท์กัน ไม่น่าเชื่อว่าวันนี้จะได้เบอร์สาวด้วย ฮ่าๆๆ
เรานั่งรถกันไปสักพัก รถมันดันติดแหงกแถวสี่แยกเพราะด้านหน้าทางที่พวกเราต้องผ่าน ผมเห็นรถเมล์ดันเสียควบ3เลนส์ โอ้วมายก๊อด-*- วันซวยจริงๆหรือนี่... ผมนั่งมองกระจกไปเรื่อยเห็นคนขายพวกมาลัยยิ้มร่าเมื่อเห็นรถติดแหง็กขนาดนี้ ทำให้ผมนึกถึงเพลงของวงๆหนึ่ง ที่ร้องเพลงก่อนมะลิบาน ช่างทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นเมื่อนั่งในรถนานๆ(ถึงแม้มิเตอร์ขึ้นแบบไม่งามก็เถอะ-*-) แต่แล้วก็เกิดเรื่องไม่น่าเชื่ออีกแล้วกับผมวันนี้ เมื่อเชียร์เอนหัวลงมาซบไหล่ผม ผมตกใจเกือบจะเรียกชื่อเธอ แต่พอเห็นเธอหลับผมจึงไม่ปลุกเธอ นี่เป็นครั้งแรกที่มีผู้หญิงที่ไม่ใช่แม่หรือญาติมาซบไหล่ ทำให้ผมไม่แน่ใจแล้วสิ ว่าวันนี้คือโชคดีหรือโชคร้าย โอ้ววว~~ เพลงในวิทยุก็เหมือนจะเป็นส่วนตัวช่วยอย่างดีที่ทำให้ผมเกิดอารมณ์หวั่นไหวในความน่ารักของเธอจนหน้าแดงด้วยเพลงรักเบาๆ ทุกอย่างเหมือนหยุดนิ่ง ผมรู้สึกสบายใจและหวั่นไหวอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ แต่แล้วเมื่อรถแท๊กซี่ขับผ่านสี่แยกไปได้ รถก็แล่นฉิวไปถึงซอยบ้านผม
“เชียร์ ตื่นได้แล้ว บ้านเชียร์อยู่ตรงไหนหรอ” ผมถามเธอ ถ้าไม่ปลุกเธอก้คงไม่ได้อ่ะนะ เดี๋ยวหาบ้านไม่เจอ
“อ้ะ ขอโทษนะ บ้านเราอยู่เกือบท้ายซอยน่ะค่ะ” เธอหน้าแดงเมื่อตื่นมาพบว่านอนซบผมอยู่
“อ่าวหรอ อยู่แยกไหนล่ะ”
“แยก32น่ะ”
“อ้าว ที่เดียวกัน บ้านอยู่ตรงไหนเนี่ยเชียร์”
“อ้ะ จริงหรอคะ บ้านเราเลยบ่อปลาไปอีกเกือบ100เมตรน่ะ” เธอบอกผม
“จริงหรอ แต่บ้านเราอยู่ใกล้ๆบ่อปลาเอง” ผมบอกเธอ
“งั้นกิตลงก่อนใช่ไหม!?”
“ไม่อ่ะ เราลงพร้อมเชียร์”
“ทำไมล่ะ?” เธองงๆ
“ก็เราต้องไปส่งเชียร์ให้ถึงบ้านสิ จริงไม๊!?” ผมบอกเธอพลางยิ้มให้
“…”เธอเงียบไปเลย แต่ว่าหน้านี่ชมพูดีจัง เอิ้กๆ
“ถึงแล้วค่ะ” พอเลยบ่อปลาและบ้านผมแล้ว เธอก็ชี้บ้านของเธอให้รถหยุด เธอเตรียมเงินควักจ่ายตังค์ค่าแท๊กซี่
“ไม่ต้องเลยๆ” ผมห้ามเธอ “เราเป็นฝ่ายชวนนะ”
“นี่ครับ” ผมยื่นเงินให้โชเฟอร์ ราคาทั้งหมดก็ถูกๆ แค่เกือบ200-*- แพงชิหายเลย แล้วเราสองคนก็ลงรถ
“ไม่ดีหรอกกิต นี่ค่ะเงินออกคนละครึ่งนะ” เธอยื่นให้ผมอย่างเกรงใจ
“อย่าเลย เราไปนะบาย แล้วจะแอดไปนะครับ” ผมบอกเธอแล้วรีบเดินหนี เพราะกลัวเธอจะตื้อคืนตัง
“งั้น บายๆค่ะ” เธอโบกมือลาผมแล้วไขประตูเขาบ้าน หมาของเธอเห่ายินดีเมื่อพบเธอ
และแล้วผมก็เดินกลับถึงบ้าน หวัดดีป๊า ม๊า อาม่าแล้วรีบขึ้นห้องนอน ผมแอดอีเมลล์ของเชียร์และปุยเฒฆ หลังจากผมกินข้าวอาบน้ำเสร็จ ผมก็ได้คุยกับพวกเธอทั้งคู่ ผมสามารถง้อปุยเมฆได้สำเร็จ แล้วก็ยังได้คุยโทรศัพท์กับเชียร์ด้วย เธอโทรมาหาผม(ซึ่งเป็นนานๆครั้งจะมีหญิงโทรมาหาผมสักที) ผมรู้สึกว่าวันน้ช่างมีความสุขเสียจริง ถึงแม้จะต้องเจอกับเรื่องเลวร้ายหลายๆเรื่อง แต่ผมก็มักจะถือคติครับ นั่นก็คือฟ้าหลังฝนไง^^
เล่าเรื่องเสียวเกย์ , อ่านเรื่องเล่าประสบการณ์เสียวเกย์,เล่าเรื่อง ประสบการณ์เสียว,เล่าเรื่องเสียว
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
นิยายวาย ชายรักชาย สุดฟิน อ่านแล้วติดใจวางไม่ลง
1. My Husband : ผู้ชายคนนี้สามีผม นวนิยายแนวแก้แค้น ฉุด ลาก กระชาก จับกด ปล้ำ สุดท้ายก็รักกัน ฟินมากเรื่องนี้ 2. My Police My...
-
เรื่องของผมที่จะเล่าเนี่ย มันเกิดกับผมมานานแล้วตั้งแต่ผมยังเด็ก ผมรู้ตัวว่าเป็นเกย์มาตั้งแต่เด็กครับ เพราะอยู่แต่กับญาติผูหญิง พ่อของผมเป็น...
-
หลังจากเหตุการณ์วันนั้น ผมกับพ่อก้อไม่มีใครพูดเรื่องนี้กันอีก จนผ่านมาเกือบๆ 5 ปี ตอนนั้นผมเริ่มมีขนตามตัวแบบพ่อแล้ว และขนาดควยก้อน่าจะสูสี...
-
เรื่องที่ผมจะเล่านี้ ผมว่าสนุกดี และเป็นเรื่องที่เกิดกับผมจริง ๆ เมื่อคืน คงจำไปตลอดชีวิตแน่ คือผมไม่ใช่เกย์ต้องบอกไว้ก่อน แต่ดูเหมือนจะต้อง...
ขายส่งกล้องวงจรปิด ถูกสุดในภาคตะวันออก 081-5691442
ตอบลบติดกล้องวงจรปิด เริ่มต้น 800 บาท กรุงเทพ ชลบุรี พัทยา ระยอง สัตหีบ
รับหน้าร้อน ติดแอร์เริ่มต้น 4,000 บาท 086-0891644
ล้างแอร์ 500 บาท ชลบุรี พัทยา ระยอง สัตหีบ
ติดตั้งระบบ CALL Center จาก SimCard