เช้าวันถัดมา...
‘โอฮาโยะ โอไฮยาฮะ โอ...’ เสียงนาฬิกาปลุกของผมรูปชินจังดังขึ้นก่อนที่ผมจะกดปิดมันลงด้วยมือข้างขวาด้วยร่างที่แสนจะงัวเงีย
ใช่ครับ วันนี้เชียร์ไม่ได้ปลุกผม ผมเป็นคนบอกเธอเองแหละว่าไม่ต้องโทรปลุกและไปโรงเรียนเด็ดขาดวันนี้ เพราะอยากให้เธอนอนพักผ่อนมากๆ ตอนแรกเธอก็ไม่ยอม บอกผมว่าอยากไป แต่ผมก็แกล้งพูดอย่างกับเด็กๆว่า เสาร์นี้จะพาไปดูหนัง เค้าก็เลยยอมแถมดูดีใจมากๆอีกต่างหาก ผมเข้าไปอาบน้ำและไปโรงเรียนตามปรกติ(ที่ไม่ปรกติก็คงไม่มีเชียร์ไปด้วยและไม่ได้นั่งแท๊กซี่ ก็ดีประหยัดๆ) ผมไปถึงโรงเรียนก้เห็นภาพที่ไม่อยากเห็นอีกแล้วล่ะครับ ปุยเมฆคุยกับพี่นิวอย่างสนิทสนม เฮ้อ~~
“หวัดดีกิต” เห้ย!? ปุยเมฆทักเราหรอ
“อ่ะ อื้มๆ หวัดดี” ผมก็อ้ำๆอึ้งๆ จะบ้าตาย- -
“เออนี่กิต นี่พี่นิวนะ เค้าเป็นรุ่นพี่เราน่ะ นิสัยดีมากๆเลย” ปุยเมฆแนะนำพี่นิวให้ผมรู้จัก อย่างกับผมไม่เคยรู้จักพี่เค้าอย่างงั้นอ่ะ
“หวัดดีครับ” ผมก็ทักทายตอบ เดี๋ยวเสียมารยาท
“อื้มหวัดดี น้องกิต”
แล้วผมก็เอากระเป๋าวางบนโต๊ะ ให้พี่เค้านั่งเก้าอี้คุยกับปุยเมฆไป(ถึงจะออกแค้นใจก็เหอะ) แล้วผมก็เดินไปหาพวกไอนัท
“เห้ย เป็นไรวะ?” เห็นไอนัทเงียบๆผมเลยถาม
“เปล่า” มันนิ่งอีกแล้ว ผมไม่ชอบมันอย่างนี้เล้ย
“เออแล้วเมิงไปไหนมาวะไอกิต เมื่อวานอ่ะ” ไอจิลหันมาถามมั่ง มินลอกการบ้านอยู่ข้างๆ
“ไปธุระมา”
“กับเชียร์?” ดูมัน อีกคนละ-*-
“เหอะๆ” ผมเองก็ไม่กล้าโกหก เลยแกล้งทำท่าส่ายหัวว่า “ไม่ใช่” แทน
“ก็ปกติเห็นมาก็พร้อมกัน กลับก็พร้อมกัน แล้วเมื่อวานยังหยุดพร้อมกันอีก ใครไม่คิดก็บ้าแล้ว เออ...แต่วันนี้ไม่เห็นเชียร์เลย ไปไหนวะ?”
“ไม่สบาย อยู่บ้าน” ผมตอบ
“แหนะรู้อีก มีไรกันเปล่าวะ”
“มีมั้ง ไอเวง คนบ้านใกล้กันก็ต้องรู้ดิวะ- -” ผมก็ตอบมันปัดๆ ถ้าบอกเรื่องเมื่อวานคงโดนเผยแพร่แน่-*-
“เออ ไปเข้าแถวกัน” ไอพอลมาพอดีเสียงออด
ผมเดินไปที่แถว ก็คุยกับพวกมันไปเรื่อย ไอนัทวันนี้ดูเงียบผิดปกติ ไม่เล่นอะไรเลย โคตรเซ็งกับมัน หรือเพราะอะไรหว่า เหมือนลืมอะไรบางอย่าง แต่ขณะที่ผมเข้าแถวอยู่ก็นึกขึ้นได้…อาทิตย์หน้านี่หว่า ครบรอบวันตายของพร!? ไม่น่าล่ะหน้าเครียดเลยเพื่อนตู- -‘
จากนั้นผมก็เรียนๆๆ เริ่มคุยกับปุยเมฆบ้าง ตอนแรกก็งอนทีทักไปไม่ยอมคุย แต่กลัวจะไม่ได้คุยตลอดไปอ่ะดิ พอคาบพักกลางวัน ปุยเมฆเดี๋ยวนี้มีพี่นิวมารับด้วยวุ้ย อะไรวะ โดนนำไปกี่ก้าวแล้วเนี่ย พอไปถึงโรงอาหาร น้องฝ้ายกับมินก็อาสาไปแลกชิพให้ ผมก็เลยรอนอกแถว
‘ว้าย!?’ เสียงใครหว่าดังเชียว
ผมหันไปมองต้นเสียง ผู้หญิงตัวเล็กๆทำหนังสือกองโตที่กำลังจะเดินไปคืนที่ห้องสมุดตกใส่เท้ทาไอนัท ไม่ใช่ไอนัททนได้ไม่เจ็บนะครับ แต่มันร้องไม่ออกต่างหาก- - อ้าปากหวอเลย รุ่นน้องม.4ทำจะเป็นจะตายแทน เหอะๆ แต่ไอนัทก็ไม่บ่นอะไร แถมยังช่วยเค้าเก็บอีกต่างหาก เอ้ะ....หน้าคุ้นๆนะคนนี้ เฟลย์นี่หว่า!? ผมนึกขึ้นได้เมื่อนึกๆไปถึงสาวที่เคยชนกับไอนัทครั้งหนึ่ง
“ขอโทษค่ะ ขอโทษจริงๆค่ะ” เฟลย์ขอโทษไอนัท
“ครับ” ไอนัทก็ยื่นหนังสือที่เก็บให้เฟลย์
“ขอบคุณค่ะ” แล้วเธอก็เดินจากไป
ตอนนี้ผมงงมาก ไม่ใช่ที่เธอเดินมาแล้วจากไปหรอก แต่เป็นไอเรื่องที่รุ่นน้องม.4ผู้หญิงแต่ละคนหันขวับเป็นเดือดเป็นร้อนแทนไอนัทนี่ดิ ทำไปได้นะเนี่ย= =’
ตอนนี้ผมก็ไปซื้อข้าวกินร้านป้าที่ขายข้าวราดแกงแหละ ได้พิเศษนี่นา ฮ่าๆๆ แล้วก็ไปนั่งกินกัน ไอจิลก็ป้อนคำหวานกับมินไม่เลิก
“นี่มิน รู้มั้ยเวลาไหนที่เรามีความสุขที่สุด?” ไอจิลถาม
“เวลาไหนหรอ!?” มินถาม
“ก็เวลาที่เราอยู่ใกล้มินไง” เอ้าๆ เขินเข้าไปมิน
“เอ้อมิน อย่าลืมนะจ่ายตังเราคืนมาด้วย”
“ตัง!? ค่าอะไรหรอ” มินงง
“ก็ค่า(ข้า)รักเอ็งไง” เอ้า เขินเข้าไปๆ-*-
“โหย ไอลาววว” ผมแกล้งด่าไอจิลมัน
“เออใช่กุลาว” เออเห้ย มันยอมรับเว้ย
“แต่เป็นลาว(เรา)รักเธอเสมอนะมิน” โห มันยังเปลี่ยนจากคำด่าเป็นคำหวานได้ ซูฮก= =’
“บ้า อายเค้านะ” น่าจะอายมาตั้งนานแล้วล่ะคู่นี้-*-
ผมหันหน้าไปหาไอนัท มันนิ่งเงียบกินอยู่คนเดียว เฮ้อ...ทำไงล่ะทีนี้ ยิ่งวันครบรอบวันตายใกล้มาเท่าไหร่ ดูมันจะไม่สดใสเข้าทุกทีเลยแฮะ อยากให้ไอพอลช่วย แต่มันก็เอาใจน้องฝ้ายอยู่ ช่วยไม่ได้อีก-*- เอาวะ เอาไงก็เอา ผมตัดสินใจแกล้งเรียกไอนัทให้ไปเข้าห้องน้ำเป็นเพื่อนหน่อย(ไม่ได้จะพาไปปล้ำนะ- -)
“ไอนัท เป็นไรวะวันนี้ กุเห็นเมิงไม่ร่าเริงเลย” ผมแกล้งถามทั้งๆที่คำตอบก็ออกมาแล้ว
“เปล่า…” มันก็ตอบหน้ายังคงนิ่งๆ
“กุเพื่อนเมิงรึเปล่า?” ผมถามมันขณะยังคงทำธุระส่วนตัว
“…” มันเงียบอยู่ครับ พร้อมเอาน้ำมาล้างหน้า
“เอางี้ กุพอเดาได้ เรื่องพรใช่ไหม?” ผมถามคราวนี้เสียงผมจริงจัง
“…”เงียบอีกแล้ว แต่ผมหันหน้าไปเห็นมันหน้าเศร้าไปเลย
“เพื่อนเอ้ย เรื่องอย่างนี้มันต้องใช้เวลากุเข้าใจ พออาทิตย์หน้าแล้วกุจะไปกับเมิงละกัน แต่เมิงต้องหัดเปิดใจบ้างนะเว้ย กุขอร้องล่ะ” ผมบอกมันขณะไปล้างมือ
“อืม ใจว่ะ” มันบอกผมพลางเดินนำผมออกไปนอกห้องน้ำ
‘ว้าย~~พลั่บ~~ฟู่’ เสียงน้ำสาดมาใส่ผมกับไอนัท
ผมหันไปทางต้นเหตุของเรื่อง ถังน้ำยังคงกลิ้งที่พื้น เฟลย์อีกแล้ว...เธอทำหน้าเหวอเลย จะสงสารหรือโกรธดีวะเนี่ย
“ขอโทษค่ะๆๆๆๆๆ” เธอขอโทษผมกับไอนัทรัวเลย แถมยกมือไหว้ด้วย
“เอ้าๆ ใจเย็นครับ” ผมบอกเธอ พลางกันไม่ให้เธอไหว้ เดี๋ยวอายุสั้น
“...” ส่วนไอนัทหน้ามันโคตรขรึมอยู่ เลยทำให้เธอยิ่งกลัวไปใหญ่
“ขอโทษจริงๆนะคะ” หลับตาปี๋กลัวเลยครับ
“ไม่เป็นไรน่า แค่นี้เอง เดี๋ยวก็แห้ง” ผมบอกเธอปลอบๆแบบไม่เป็นไร แต่สงสัยผมคงเป็นหวัดก่อนหายเปียกแน่ๆ “ไปเหอะไอนัท”
แล้วผมกับไอนัทก็เดินหันหลังให้เธอไปทางโรงอาหาร แต่อยู่ๆก็เกิดบางเรื่องที่ทำให้ไอนัทโกรธ
“ขอโทษจริงๆนะคะ” เธอยังพูดพลางเช็ดหลังไอนัทด้วยผ้าเช็ดหน้า
“...” ไอนัทหน้ามันดูหงุดหงิด
“ขอโทษจริงๆนะคะ....”เธอขอโทษซ้ำ
“โอเค ผมไม่เป็นไร พอได้แล้ว แล้วช่วยไปจากผมทีได้ไหมคับ!” ไอนัทพูดเสียงดัง ดูมันหงุดหงิดจริงๆนะเนี่ย
อาจเพราะมีเรื่องที่ทำให้มันไม่สบายอยู่ก่อนด้วยแหละ เลยทำให้มันหลุด
“เห้ยใจเย็นดิวะ” ผมปรามๆมัน
“คุณรีบไปก่อนเถอะ เพื่อนผมตอนนี้เค้าอารมณ์ไม่ค่อยดีน่ะ” ผมบอกเฟลย์
“ค่ะ...” หน้าเธออย่างหมองครับ จากน่ารักกลายเป็นหวาดกลัวมากๆ
แล้วผมกับไอนัทก็เข้าไปโรงอาหารเหมือนหมาตกน้ำมาแหม็บๆ ทุกคนมองผมเหมือนตัวประหลาด แต่มองไอนัทแบบโคตรสงสาร(คือผมไม่มีค่าสำหรับใครเลยใช่ไหมเนี่ย) แล้วก็ไปนั่งที่โต๊ะกับพวกไอพอลอย่างเดิม...
“โห หมาชัดๆ” ไอพอลแซวผมกับไอนัท
“หมาอ่ะ มันในปากเมิง” ผมแขวะมัน
“เห้ยๆพูดดีๆ ใครด่ากุขอให้เป็นหมัน”
“สาธุ ขอให้เค้าลูกเมิง”
“...” มันเงียบเลยครับ ฮ่าๆๆ พวกผมนี่ก็แปลก คนอื่นเล่นพ่อแม่กันแต่พวกผมเห็นว่ามันบาป เลยเล่นลูกแทน
แล้วพวกผมก็กินข้าวกันเรียบร้อยเดินไปล้างหน้ากันที่ก๊อกน้ำ
‘อยากให้เธอฟัง อยากให้เธ...’ เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้น ระหว่างกำลังล้างหน้า ผมเลยเอามือไปหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดแล้วกดรับ
“ฮัลโหล” ผมพูด
“ดีค่ะกิต” อ้ะ เสียงเชียร์นี่เอง แถมดูดีขึ้นมากๆด้วย แสดงว่าหายดีละ
“ไม่นอนพักผ่อนให้มากๆหรอเชียร์”
“ไม่ล่ะจ้ะ นอนเยอะละ ขืนนอนอีกคงไม่ต้องนอนอีกแล้วล่ะ อิอิ” เธอพูดเล่นๆ
“ไม่เอาน่า อย่าลืมนอนพักแล้วก็กินยานะ จะได้หายสนิทเลย”
“ค่ะ...พ่อ!” น่านดูเธอเล่น-*-
“เหอ...” ผมทำเสียงหน่าย
“ล้อเล่นจ้ะกิต แล้วทำอะไรอยู่หรอ?”
“เพิ่งกินข้าวเสร็จน่ะ กำลังเดินไปที่ห้องกันอยู่” ผมบอกเธอขณะกำลังเดินกลับห้องกัน
“อ่อจ้ะ”
“แล้วเชียร์กินข้าวหรือยัง?” ผมถามเธอมั่ง
“ไม่หิวอ่ะ แต่อยากกินข้าวต้มฝีมือบางคนอีก^^” เธอทำเสียงน่ารักๆ
“หึ อยากกินน่ะไว้ทำให้อีกก้ได้ แต่ว่าไม่กินข้าวไม่ได้นะ ไปหาอะไรกินซะนะเชียร์” ผมบอกเธอด้วยความเป็นห่วง
“โหยไรวะ ไม่เจอหน้ากันแป๊บเดียวก็โทรหากันละ อิจฉาจังวุ้ย” ไอพอลแซว น้องฝ้ายที่เดินข้างๆก็ยิ้มมั่ง
“แป๊บนะเชียร์” ผมบอกเชียร์ แล้วหันไปหาไอพอล “อิจฉาเชี่ยไรล่ะ เพื่อนโว้ย หุบปากไปเลย!”
“อิอิ อีกแล้วหรอ” เธอพูดดังมาจากโทรศัพท์อย่างรู้ทัน
“ใช่ อีกแล้ว-*- เชียร์ก็หายไวๆสิ จะได้มาว่ามันมั่ง”
“อื้ม จะพยายามนะ” เธอตอบ
แล้วยัยมินก็ดึงโทรศัพท์ไปจากหูผมเอาไปคุยเฉยเลย-*-
“ฮัลโหล เชียร์หรอจ้ะ เป็นไงบ้าง หายหรือยัง กินอะไรแล้วบ้าง กินยายังจ้ะ?” ยัยมินใส่เป็นชุด
“นี่มิน จะเอาคำตอบหรือเปล่าจ้ะเนี่ย” เชียร์พูดขำๆ
“เอาสิจ้ะ โทษที อิอิ”
“จะหายแล้วจ้ะ สบายดีขึ้นมากแล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ไปโรงเรียนได้แล้วล่ะ” เธอตอบให้ยัยมินฟังแต่ไม่ครบทุกคำถาม(สงสัยจำคำถามได้ไม่หมด- -)
“แล้วนอนพักรึยังจ้ะเนี่ย” ยัยมินถามต่อ
“นอนแล้วจ้ะ”
“หรอ งั้นหายไวๆพรุ่งนี้ก็มาเลยนะ บายๆ จุ้บๆ” ยัยมินพูดรวดเดียวเลยแล้วก็วาง อ้าว.... ผมยังคุยไม่เสร็จเลยไง
ผมรับโทรศัพท์จากยัยมินมาแล้วก็เดินเข้าห้องกัน ปุยเมฆไม่อยู่อีก ยิ่งคิดยิ่งแค้นคงยังไปกินข้าวสุดหวานกับพี่นิว-*- ผมเองก็นั่งรอไปเรื่อย นับวันไป....เอ้าวันนี้วันพฤหัสแล้วนี่หว่า อีกสองวันก็ไปเที่ยวกับเชียร์ตามสัญญาละ ก็ดีแก้เซ็ง ผมหันไปมองทางหน้าต่างด้านซ้ายที่เปิดอยู่ มีผู้หญิงคนนึงยิ้มให้ผม
“หวัดดีจ้ะกิต” เสียงคนที่ผมเคยคุ้นเคยที่สุดดังขึ้น
“เจน!?” ใช่แล้วครับ เจนนั่นเอง รักครั้งแรกที่ไม่สมหวังของผม
“ทำอะไรอยุ่หรอ?”
“นั่งเฉยๆอ่ะ แล้วเจนจะไปไหนหรอ?” ผมถามเธอบ้าง(เห็นหน้าเธอทีไรหัวใจมันเจ็บซะทุกที)
“...” เธอไม่ตอบ แต่ส่ายหน้าแทนแล้วก้มหน้าลง
“ขอเข้าไปหน่อยได้ไหม?” เธอบอกผม
แล้วเธอก็เดินเข้ามาในห้อง เดินตรงมาหาผมท่ามกลางสายตาของไอพอล ไอจิล ไอนัท ซึ่งพวกมันก็รู้เรื่องความหลังของผมดี เลยไม่กล้าแม้ที่จะพูดกวนใดๆ
“กิตเป็นยังไงบ้าง?” เธอพูดแต่ฝืนยิ้ม
“ก็ดีน่ะ”ผมตอบคำ
เราสองคนต่างเงียบกันไปสักพัก ดูเหมือนว่าเธอจะมีเรื่องอะไรที่ไม่ยอมบอกผมอยู่ ผมเองถึงอยากรู้แต่หากเธอไม่บอกผมก็ไม่อยากถาม เพราะไม่อยากให้ทุกอย่างกลายเป็นวันเก่าที่ทำให้ผมเจ็บ
“กิต...” เธอเรียกชื่อผม
“หืม?” ผมก้มหน้าลง ไม่กล้าสบตาเธอ
“กิตคบกับเชียร์แล้วจริงๆหรอ?” เธอถามผม ทำผมอึ้งพอควรที่เธอสนใจเรื่องนี้
“เปล่าหรอก...ทำไมหรอ?” ผมถามเธอบ้าง
“หรอ งั้นก็เป็นข่าวโคมลอยน่ะสิ” ผมเกือบลืมไปเสียสนิทว่าเธอเป็นเพื่อนห้องเดียวกับเชียร์ตอนม.ต้น
“...” ผมไม่ตอบได้แต่พยักหน้า
“กิต...รู้อะไรไหม เราเลิกกับปังแล้วล่ะ” อยู่ๆเธอก็พูดเรื่องของเธอกับแฟนเก่า(ปังเพื่อนเก่าผมที่คบกับเธอ)ขึ้นมา ทำเอาผมต้องเงยหน้าขึ้นมองเธอ
“ทำไมล่ะ!?” ผมถาม
“ไม่รุ้สิ อาจเพราะเราไม่เข้ากันมั้ง สุดท้ายทุกอย่างกับคนที่เราคิดว่าใช่ก็จากไป” เธอตอบผมหน้าหมองๆ
“...” ผมพูดอะไรไม่ออก อยากปลอบเธอแต่ก็ไม่กล้า เพราะไม่รู้ว่าจะปลอบเธอในฐานะอะไร
แล้วเราสองคนก็เงียบกันไปพักใหญ่ ก่อนที่เธอจะเดินออกไปนอกห้องแล้วจากไปหลังจากที่บอกลาผม ผมได้แต่นั่งคิดเรื่องของเจนเกี่ยวกับไอปัง ให้ตายสิ ความรู้สึกเก่าๆมันกลับมาแล้ว เธอจะกลับมาหาผมทำไม ในเมื่อหลังจากวันนั้น เธอเองก็ไม่เคยแคร์ผมเลย....
ปล.ถ้าอยากอ่านอีกช่วยโพสต์หน่อยนะครับ หมดกำลังใจไปเยอะเลย ถ้ามาโพสต์คืนนี้ต่อให้อีกตอนแน่นอน
เล่าเรื่องเสียวเกย์ , อ่านเรื่องเล่าประสบการณ์เสียวเกย์,เล่าเรื่อง ประสบการณ์เสียว,เล่าเรื่องเสียว
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
นิยายวาย ชายรักชาย สุดฟิน อ่านแล้วติดใจวางไม่ลง
1. My Husband : ผู้ชายคนนี้สามีผม นวนิยายแนวแก้แค้น ฉุด ลาก กระชาก จับกด ปล้ำ สุดท้ายก็รักกัน ฟินมากเรื่องนี้ 2. My Police My...
-
เรื่องของผมที่จะเล่าเนี่ย มันเกิดกับผมมานานแล้วตั้งแต่ผมยังเด็ก ผมรู้ตัวว่าเป็นเกย์มาตั้งแต่เด็กครับ เพราะอยู่แต่กับญาติผูหญิง พ่อของผมเป็น...
-
หลังจากเหตุการณ์วันนั้น ผมกับพ่อก้อไม่มีใครพูดเรื่องนี้กันอีก จนผ่านมาเกือบๆ 5 ปี ตอนนั้นผมเริ่มมีขนตามตัวแบบพ่อแล้ว และขนาดควยก้อน่าจะสูสี...
-
เรื่องที่ผมจะเล่านี้ ผมว่าสนุกดี และเป็นเรื่องที่เกิดกับผมจริง ๆ เมื่อคืน คงจำไปตลอดชีวิตแน่ คือผมไม่ใช่เกย์ต้องบอกไว้ก่อน แต่ดูเหมือนจะต้อง...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น